เคล็ดลับอบตัวให้สวยที่บ้าน ด้วยสมุนไพรอบตัว จากพืชธรรมชาติ

0

ใครๆ ก็อยากจะมีผิวพรรณที่เปล่งปลั่งและสวยสดใส โดยเฉพาะคุณแม่หลังคลอดนั้นหากอยากผิวสวยไว แนะนำสมุนไพรอบตัวที่มาจากพืชธรรมชาติ นอกจากจะได้ผิวที่สวยใสและนวลเนียนขึ้นแล้ว อาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ปวดหลัง หรือปวดแผลผ่าตัดก็จะดีขึ้นแบบทันตาเห็น ที่สำคัญหากเลือกสมุนไพรอบตัวให้เหมาะสมกับอาการของร่างกายแล้ว รับรองว่าไขมันส่วนเกิน หรือแม้แต่หน้าท้องย้วยๆ จากการตั้งครรภ์ก็จะยุบลงได้เร็ว แบบลืมไปเลยว่าเพิ่งคลอดบุตร!

สมุนไพรอบตัว

นอกจากนี้การอบตัวด้วยสมุนไพรไม่จำกัดว่าจะต้องมีประโยชน์ต่อคุณแม่หลังคลอดเพียงคนเดียว จะเป็นคุณพ่อ คุณลูก คุณตา คุณยาย หรือคนในบ้านก็สามารถใช้สมุนไพรอบตัวเพื่อดูแลรักษาสุขภาพได้อย่างเห็นผลอีกด้วย ถ้าหากไม่เชื่อเรามีข้อมูลผ่านการศึกษาและวิจัยจาก คณะแพทย์แผนไทย ของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์มาฝากกันค่ะ

ทำไมถึงควรใช้สมุนไพรอบตัว

สำหรับคุณแม่หลังคลอดนั้น การอบตัวด้วยสมุนไพร จะช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อย โดยเฉพาะกล้ามเนื้อที่ใช้งานหนักอย่างช่วงหลัง เอว คอ บ่าไหล่ ที่แบกน้ำหนักในระหว่างตั้งครรภ์เอาไว้ นอกจากนี้หากเลือกสมุนไพรที่มีฤทธิ์ในการสมานแผลและขับน้ำคาวปลา ก็จะช่วยให้มดลูกเข้าอู่ได้ไวยิ่งขึ้น

สำหรับคนทั่วไป ต้องบอกเลยว่าการใช้สมุนไพรอบตัวนั้นนอกจากจะสร้างความผ่อนคลายแล้ว ยังช่วยให้อาการต่างๆ ทางร่างกายดีขึ้นอีกด้วย เช่น ช่วยลดอาการหวัด คัดจมูก รวมถึงคนที่เป็นหอบหืดแบบเรื้อรังก็สามารถดีขึ้นได้ นอกจากนี้ผู้สูงอายุที่มีอาการปวดเมื่อย หรือเป็นเหน็บชาก็สามารถใช้สมุนไพรอบตัวมาช่วยแก้อาการเหล่านี้ได้อย่างน่าทึ่งเลยทีเดียว

แนะนำสินค้าสมุนไพรของร้านอบไทย

สมุนไพรที่นิยมใช้ในการอบตัว

  • มะกรูด ช่วยลดอาการไอ ขับเสมหะ แถมยังช่วยลดริ้วรอย และชะลอวัยได้อีกด้วย
  • ตะไคร้หอม นอกจากจะให้กลิ่มหอมบำบัดอารมณ์แล้ว ยังช่วยบํารุงไฟธาตุ ช่วยลดไข้และลดอาเจียน
  • ขมิ้นชัน ต้องบอกว่าเป็นพืชสารพัดประโยชน์ เพราะนอกจากจะช่วยแก้ท้องอืดท้องเฟ้อได้แล้ว ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระในปริมาณที่สูงมาก ซึ่งให้ผลลัพธ์ในด้านการชะลอวัย และต้านการเกิดริ้วรอย
  • สาคูวิลาส ลดอาการปวดและบวม ช่วยล้างไขมันในลำไส้ แถมยังช่วยรักษาอาการงูสวัดได้อีกด้วย
  • เสลดพังพอนตัวเมีย ช่วยในเรื่องการถอนพิษไข้ ลดความร้อน บรรเทาอาการเจ็บคอ ช่วยแก้ปัญหาประจําเดือนมาไม่ปกติ
  • อ้อยแดง ถือเป็นยาบำรุงธาตุ และใช้รักษาอาการอ่อนเพลีย ช่วยให้เจริญอาหาร สร้างแรงและบำรุงกําลังได้ดีอย่างยิ่ง

ข้อควรระวังในการอบสมุนไพร

ถึงจะมีคุณประโยชน์ที่หลากหลาย แต่ก็ยังมีข้อควรระวังสำหรับบางคนที่มีอาการดังต่อไปนี้

  • หากเป็นไข้สูงเกิน 38 องศา ควรเลี่ยงการเข้าอบตัว เพราะอาจจะทำให้ร่างกายสามารถรับเชื้อและติดเชื้ออื่นๆ ได้ง่าย
  • ควรวัดความดันโลหิตก่อนเสมอ โดยเฉพาะผู้สูงอายุ และคนที่มีโรคประจำตัว โดยเฉพาะถ้าหากวัดความดันโลหิตได้สูงเกิน 140/90 มิลลิเมตรปรอท และต่ำกว่า 90/60 มิลลิเมตรปรอท ควรปรึกษากับแพทย์ผู้ชำนาญก่อน นอกจากนี้ผู้ป่วยที่มีโรคหัวใจ ความดัน โรคลมชัก โรคหอบหืดระยะรุนแรง โรคไต และโรคติดต่อทางเดินหายใจ ควรหลีกเลี่ยง
  • ไม่ควรเข้าอบตัวในขณะที่เป็นประจำเดือน
  • หากเพิ่งรับประทานอาหารอิ่มใหม่ๆ ยังไม่ควรเข้ารับการอบตัว
  • หากรู้สึกว่าร่างกายมีความอ่อนเพลีย ขาดน้ำ หน้ามืด เวียนหัว ปวดหัว หรืออาเจียน รวมถึงอดนอนมากๆ ก็ไม่ควรที่จะอบตัว
  • แนะนำให้อบตัวที่อุณหภูมิ 40-60 องศา เป็นระยะเวลาราวๆ 10-15 นาทีต่อครั้ง สามารถอบนานได้มากกว่านี้ แต่ยังไงก็แล้วแต่ไม่ควรที่จะเกิน 1 ชั่วโมง และแนะนำให้แบ่งเวลาในการอบ เช่น อบครบทุก 15 นาที แล้วออกมาพัก ดื่มน้ำเพื่อไม่ให้ร่างกายขาดน้ำ แล้วค่อยกลับไปอบต่อ